Aa
1จงทำตามอย่างข้าพเจ้าเหมือนที่ข้าพเจ้าทำตามแบบอย่างของพระคริสต์
วางตัวให้เหมาะสมในการนมัสการ
2ข้าพเจ้าขอชมเชยพวกท่านที่ระลึกถึงข้าพเจ้าในทุกเรื่องและยึดถือคำสั่งสอน11:2 หรือธรรมเนียมปฏิบัติตามที่ข้าพเจ้าถ่ายทอดให้แก่ท่าน
3แต่ขอให้ท่านตระหนักว่าพระคริสต์ทรงเป็นศีรษะของชายทุกคนและชายเป็นศีรษะของหญิง และพระเจ้าทรงเป็นศีรษะของพระคริสต์
4ชายทุกคนที่อธิษฐานหรือเผยพระวจนะโดยมีผ้าคลุมศีรษะอยู่ก็สร้างความอัปยศแก่ศีรษะของเขา
5และหญิงทุกคนที่อธิษฐานหรือเผยพระวจนะโดยไม่มีผ้าคลุมศีรษะก็สร้างความอัปยศแก่ศีรษะของนางประหนึ่งว่านางได้โกนศีรษะ
6ถ้าผู้หญิงไม่คลุมศีรษะ นางก็เหมือนได้กล้อนผมไปแล้ว แต่เป็นเรื่องน่าอายที่ผู้หญิงจะกล้อนหรือโกนผม นางก็ควรคลุมศีรษะ
7ผู้ชายไม่ควรคลุมศีรษะ เพราะเขาคือพระฉายและศักดิ์ศรีของพระเจ้า แต่ผู้หญิงคือศักดิ์ศรีของผู้ชาย
8เพราะผู้ชายไม่ได้มาจากผู้หญิง แต่ผู้หญิงมาจากผู้ชาย
9และไม่ได้ทรงสร้างผู้ชายขึ้นสำหรับผู้หญิง แต่ทรงสร้างผู้หญิงขึ้นสำหรับผู้ชาย
10ด้วยเหตุนี้ผู้หญิงจึงควรมีสิทธิอำนาจเหนือศีรษะของนาง11:10 หรือควรมีเครื่องหมายแห่งสิทธิอำนาจบนศีรษะของนางเพราะเหล่าทูตสวรรค์
11อย่างไรก็ตามในองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้หญิงไม่เป็นอิสระจากผู้ชายและผู้ชายไม่เป็นอิสระจากผู้หญิง
12เพราะว่าผู้หญิงมาจากผู้ชายและผู้ชายเกิดมาจากผู้หญิง แต่ทุกสิ่งมาจากพระเจ้า
13พวกท่านจงวินิจฉัยเองเถิดว่าควรหรือไม่ที่ผู้หญิงจะอธิษฐานต่อพระเจ้าโดยไม่คลุมศีรษะของนาง?
14ธรรมชาติไม่สอนหรือว่าที่ผู้ชายจะไว้ผมยาวนั้นก็น่าอาย
15แต่ถ้าหากผู้หญิงไว้ผมยาวก็สมศักดิ์ศรีเพราะผมยาวมีไว้ให้คลุมศีรษะ
16ใครจะโต้แย้งข้อนี้ เรากับคริสตจักรต่างๆ ของพระเจ้าไม่มีข้อปฏิบัติเป็นอย่างอื่น
พิธีมหาสนิท
(มธ.26:26-28; มก.14:22-24; ลก.22:17-20)
17ในข้อปฏิบัติต่อไปนี้ ข้าพเจ้าไม่อาจชมเชยพวกท่านเพราะการประชุมของพวกท่านมีผลเสียมากกว่าผลดี
18ประการแรกข้าพเจ้าได้ยินว่าเมื่อพวกท่านประชุมกันในฐานะที่เป็นคริสตจักร มีการแบ่งพรรคแบ่งพวกในหมู่พวกท่าน และข้าพเจ้าเชื่อว่ามีมูลความจริงอยู่บ้าง
19ไม่ต้องสงสัยเลยว่าในพวกท่านย่อมมีข้อแตกต่างกัน เพื่อจะแสดงให้เห็นว่าฝ่ายไหนที่พระเจ้าทรงเห็นชอบด้วย
20เมื่อพวกท่านมาประชุมกัน ที่ท่านรับประทานไม่ใช่งานเลี้ยงขององค์พระผู้เป็นเจ้า
21เพราะต่างรับประทานโดยไม่รอคนอื่นเลย คนหนึ่งยังหิว ส่วนอีกคนเมามาย
22พวกท่านไม่มีบ้านที่จะนั่งกินดื่มหรืออย่างไร? หรือว่าพวกท่านลบหลู่คริสตจักรของพระเจ้าด้วยการทำให้คนที่ขัดสนอับอาย? ข้าพเจ้าจะพูดอะไรกับพวกท่านดี? จะให้ข้าพเจ้าชมเชยพวกท่านเพราะสิ่งนี้หรือ? ไม่อย่างแน่นอน!
23เพราะสิ่งที่ข้าพเจ้าถ่ายทอดแก่พวกท่านนั้น ข้าพเจ้ารับมาจากองค์พระผู้เป็นเจ้า คือในคืนที่เขาทรยศพระเยซูเจ้านั้นพระองค์ทรงหยิบขนมปัง
24เมื่อขอบพระคุณพระเจ้าแล้วทรงหักและตรัสว่า “นี่คือกายของเราซึ่งให้แก่ท่านทั้งหลาย จงทำเช่นนี้เป็นที่รำลึกถึงเรา”
25เมื่อรับประทานแล้วทรงหยิบถ้วยขึ้นกระทำอย่างเดียวกันและตรัสว่า “ถ้วยนี้คือพันธสัญญาใหม่ด้วยโลหิตของเรา เมื่อใดที่พวกท่านดื่ม จงทำเช่นนี้เป็นที่รำลึกถึงเรา”
26เพราะเมื่อใดก็ตามที่พวกท่านรับประทานขนมปังนี้และดื่มจากถ้วยนี้ พวกท่านก็ประกาศการวายพระชนม์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าจนกว่าพระองค์จะเสด็จมา
27ฉะนั้นใครก็ตามที่กินขนมปังหรือดื่มจากถ้วยขององค์พระผู้เป็นเจ้าอย่างไม่สมควร ก็ได้ทำผิดบาปต่อพระกายและพระโลหิตขององค์พระผู้เป็นเจ้า
28แต่ละคนควรจะตรวจสอบตนเองก่อนรับประทานขนมปังและดื่มจากถ้วยนี้
29เพราะผู้ที่รับประทานและดื่มโดยไม่ตระหนักถึงพระกายขององค์พระผู้เป็นเจ้า ก็รับประทานและดื่มสิ่งที่เป็นเหตุให้ตนเองถูกพิพากษาลงโทษ
30นี่คือสาเหตุที่พวกท่านหลายคนอ่อนแอและเจ็บป่วย บางคนก็ล่วงลับไป
31แต่ถ้าเราได้วินิจฉัยตนเอง เราก็จะไม่ต้องตกอยู่ในการพิพากษา
32เมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพิพากษาลงโทษเรานั้น พระองค์ทรงตีสอนเราเพื่อไม่ให้เราต้องรับโทษร่วมกับโลก
33ฉะนั้นพี่น้องทั้งหลาย เมื่อท่านเข้ามาพร้อมกันเพื่อรับประทานในพิธีมหาสนิท จงรอซึ่งกันและกัน
34ถ้าใครหิวก็ควรรับประทานที่บ้านเพื่อว่าเวลาพวกท่านมาประชุมกันจะได้ไม่จบลงด้วยการพิพากษาลงโทษ
และเมื่อข้าพเจ้ามา ข้าพเจ้าจะให้ข้อแนะนำอื่นๆ