Aa
การ​ร้อง​ขอ​ความ​เป็น​ธรรม​และ​เมตตา
1ใน​ปี​ที่​สี่​ของ​กษัตริย์​ดาริอัส คำ​กล่าว​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​มา​ถึง​เศคาริยาห์ ใน​วัน​ที่​สี่ เดือน​เก้า​ซึ่ง​เป็น​เดือน​คิสเลฟ7:1 เดือน​พฤศจิกายน 518 ปี​ก่อน ค.ศ.
2ประชาชน​ของ​เบธเอล​ได้​ส่ง​ชาเรเซอร์ เรเกมเมเลค และ​พรรคพวก​ของ​พวก​เขา เพื่อ​ไป​ถาม​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​อย่าง​จริง​ใจ
3โดย​ถาม​บรรดา​ปุโรหิต​ของ​พระ​ตำหนัก​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​จอม​โยธา และ​พูด​กับ​บรรดา​ผู้​เผย​คำ​กล่าว​ของ​พระ​เจ้า​ว่า “ข้าพเจ้า​ควร​จะ​ร้องไห้​และ​อด​อาหาร​ใน​เดือน​ห้า อย่าง​ที่​ข้าพเจ้า​ทำ​มา​เป็น​เวลา​หลาย​ปี​หรือ​ไม่”
4และ​คำ​กล่าว​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​จอม​โยธา​ก็​มา​ถึง​ข้าพเจ้า​ดัง​นี้​ว่า
5“จง​บอก​ประชาชน​ทั้ง​ปวง​ของ​แผ่นดิน​และ​บรรดา​ปุโรหิต​ว่า เวลา​พวก​เจ้า​อด​อาหาร​และ​ครวญคร่ำ​ร่ำไห้​ใน​เดือน​ห้า​และ​เดือน​เจ็ด ใน​ช่วง​เวลา 70 ปี​ที่​ผ่าน​มา​นั้น เจ้า​อด​อาหาร​เพื่อ​เรา​หรือ
6และ​เวลา​พวก​เจ้า​รับประทาน​และ​ดื่ม พวก​เจ้า​รับประทาน​และ​ดื่ม​เพื่อ​พวก​เจ้า​เอง​มิ​ใช่​หรือ
7พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ประกาศ​ผ่าน​บรรดา​ผู้​เผย​คำ​กล่าว​ของ​พระ​เจ้า​รุ่น​ก่อนๆ เป็น​คำ​กล่าว​เหล่า​นี้​มิ​ใช่​หรือ เมื่อ​เยรูซาเล็ม​และ​เมือง​ต่างๆ รอบ​ข้าง​มี​ผู้​คน​อาศัย​อยู่​และ​เจริญ​รุ่งเรือง รวม​ทั้ง​เนเกบ​และ​เนินเขา​เชเฟลาห์​ด้วย”
8และ​คำ​กล่าว​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ก็​มา​ถึง​เศคาริยาห์​ว่า
9พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​จอม​โยธา​กล่าว​ดัง​นี้ “จง​ปกครอง​ด้วย​ความ​เป็น​ธรรม​อย่าง​แท้​จริง แสดง​ความ​เมตตา​และ​ความ​สงสาร​ต่อ​กัน​และ​กัน
10อย่า​กดขี่​ข่มเหง​หญิง​ม่าย​หรือ​เด็ก​กำพร้า​พ่อ คน​ต่างด้าว​หรือ​ผู้​ยากไร้ และ​อย่า​คิด​ร้าย​ใน​ใจ​ต่อกัน”
11แต่​พวก​เขา​ปฏิเสธ​ที่​จะ​ใส่​ใจ และ​ยัง​หัวรั้น​หัน​หลัง และ​ทำ​หู​ทวนลม​ไม่​ฟัง
12พวก​เขา​ทำ​จิตใจ​แข็ง​กระด้าง​ดั่ง​หิน​เหล็ก​ไฟ ไม่​ฟัง​กฎ​บัญญัติ​และ​คำ​กล่าว​ที่​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​จอม​โยธา​ได้​ส่ง​มา​ให้​โดย​พระ​วิญญาณ​ผ่าน​บรรดา​ผู้​เผย​คำ​กล่าว​ของ​พระ​เจ้า​รุ่น​ก่อนๆ ฉะนั้น​ความ​กริ้ว​อัน​ร้อนแรง​จึง​มา​จาก​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​จอม​โยธา
13“เวลา​เรา​ร้อง​บอก พวก​เขา​ก็​ไม่​ฟัง ดังนั้น​เวลา​พวก​เขา​ร้อง​บอก เรา​ก็​จะ​ไม่​ฟัง” พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​จอม​โยธา​กล่าว​ดัง​นั้น
14“เรา​ทำ​ให้​พวก​เขา​กระจัด​กระจาย​กัน​ไป​ด้วย​พายุ​หมุน​ใน​ท่าม​กลาง​ประชา​ชาติ​ทั้ง​ปวง​ที่​พวก​เขา​ไม่​เคย​รู้จัก แผ่นดิน​ถูก​ทิ้ง​ร้าง​ไว้​เบื้อง​หลัง จึง​ไม่​มี​ใคร​ไป​มา​หา​สู่​กัน​ได้ พวก​เขา​ทำ​ให้​แผ่นดิน​อัน​น่า​อยู่​กลายเป็น​ที่​รกร้าง”